Sinking and the Paradox of Staying Afloat

The environment needs us, and we need the environment. It is that simple. Yet, despite commendable interventions and sincere climate actions by dedicated initiatives, environmental degradation continues – and we adapt to it. 

The exhibition Sinking and the Paradox of Staying Afloat emerges from the impulse to survive. In that, the title is suggestive, pointing to the paradox, or perhaps paradoxes, we face daily – the contradictory condition of caring for and concurrently inflicting damage to nature. While suggesting the process of drowning, in fact, the word “sinking” in the title relates to not only climate breakdown impacting global water patterns, but also, the sense of suffocating in our deteriorating environment, analogous to self-demise. On the other hand, the expression “staying afloat” points to the ability of adapting and maintaining a balance between two contrasting plights – dying and surviving – hence the paradox. Can we really persevere through destruction? How long before it is too late? 

In responding to these questions, the curatorial framework for Sinking and the Paradox of Staying Afloat pivots on two main concerns: the effects that climate change has on water, an essential element for life; and the need to return to our traditions of collaborating with nature and its creatures, along with the realization that we are forging an artificial nature that is turning hostile in response to the violence we are inflicting on it. 

Geographically, Sinking and the Paradox of Staying Afloat looks at the Southeast Asian region. As global temperatures rise, glacial melting at an unprecedented rate impacts oceans and waterways, including Southeast Asia’s main rivers. In Thailand, the Mekong River and its tributaries are crucial for the country’s sustainable future; however, its increasingly unstable tidal and seasonal patterns have tremendous consequences on the country’s biodiversity as well as its cultural heritage. Staple food such as rice requires predictable water levels to grow, the unbalance of which endangers its very existence and other crops. Because of the additional water draining into rivers, major Southeast Asian cities such as Bangkok and Ayutthaya are subjected to major flooding events that transform the urban landscape and force city dwellers into different living conditions. The seasons are shifting, bringing extreme weather, affecting vegetation and crop growth periods. Health issues, threatened livelihoods, and the resolve to recycle, to convert waste into a new sustainable economy, become the new standards. 

Responding to these concerns, the exhibiting artists are not mere spectators of their surroundings, but rather anthropologists, social workers and shamans, entering in relation with the living elements. Their works, from video and mixed media to paintings and sculptures made of recycled materials, to labor-intensive installations, hinge on community participation to impress upon us our individual responsibility to our planet.  
สิ่งแวดล้อมและมนุษย์ต่างก็พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ แม้ว่าจะมีความพยายามอย่างจริงจังและน่าชื่นชมในการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศ แต่ความเสื่อมโทรมของสภาพแวดล้อมก็ยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง และมนุษย์เองก็จำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ดังกล่าว

นิทรรศการ “Sinking and the Paradox of Staying Afloat” ถือกำเนิดขึ้นจากแรงผลักดันในการดำรงชีวิตอยู่ ชื่อของนิทรรศการนี้กระตุ้นให้เกิดการขบคิด โดยชี้ให้เห็นถึงความขัดแย้งที่เราต้องเผชิญในแต่ละวัน นั่นคือ สภาวะที่ย้อนแย้งระหว่างการอนุรักษ์และการทำลายธรรมชาติไปพร้อมๆ กัน ในขณะที่สื่อถึงกระบวนการจมดิ่งลงสู่ความเสื่อมโทรม คำว่า “Sinking” ในชื่อนิทรรศการไม่ได้หมายถึงเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลต่อระดับน้ำทั่วโลกเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความรู้สึกอึดอัดในสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรมลงของเราด้วย ซึ่งเปรียบเสมือนการสิ้นชีวิตของตัวเราเอง ในทางตรงกันข้าม คำว่า “Staying Afloat” แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและรักษาสมดุลท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างความตายและการเอาชีวิตรอด จึงเกิดเป็นปริศนาขึ้น เราจะสามารถยืนหยัดต่อสู้กับการทำลายล้างได้หรือไม่? เราจะรอช้าไปอีกนานเท่าใดกว่าจะสายเกินไป?

เพื่อตอบคำถามเหล่านี้ กรอบแนวคิดของนิทรรศการ “Sinking and the Paradox of Staying Afloat” มุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญสองประการ ได้แก่ ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อน้ำ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อสิ่งมีชีวิต และความจำเป็นที่จะต้องหวนคืนสู่ภูมิปัญญาดั้งเดิมในการอยู่ร่วมกับธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ พร้อมๆ กับการตระหนักว่าเรากำลังสร้างธรรมชาติเทียมที่ทำร้ายตัวเราเองเพื่อโต้ตอบกับความรุนแรงที่เรากำลังก่อขึ้น

ในมิติทางภูมิศาสตร์ นิทรรศการ “Sinking and the Paradox of Staying Afloat” มุ่งเน้นไปที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่ออุณหภูมิโลกสูงขึ้น การละลายของน้ำแข็งในอัตราที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนส่งผลกระทบต่อมหาสมุทรและแหล่งน้ำ รวมถึงแม่น้ำสายสำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับประเทศไทย แม่น้ำโขงและสาขาแม่น้ำมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความยั่งยืนในอนาคตของประเทศ แต่รูปแบบระดับน้ำและฤดูกาลที่แปรปรวนมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อความหลากหลายทางชีวภาพและมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ข้าว ซึ่งเป็นอาหารหลัก ต้องการน้ำในปริมาณที่คาดการณ์ได้เพื่อการเจริญเติบโต ความไม่สมดุลของน้ำจะส่งผลต่อการคงอยู่ของข้าวและพืชผลอื่นๆ เนื่องจากปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เมืองใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น กรุงเทพมหานครและพระนครศรีอยุธยา ประสบกับเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ ซึ่งเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์เมืองและบังคับให้ผู้คนต้องดำเนินชีวิตในรูปแบบที่แตกต่างไป ฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงนำมาซึ่งสภาพอากาศที่รุนแรง ส่งผลต่อพืชพรรณและวงจรการเจริญเติบโต ปัญหาสุขภาพ คุณภาพชีวิตที่ตกต่ำ และความมุ่งมั่นในการรีไซเคิลเพื่อเปลี่ยนขยะให้กลายเป็นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่ยั่งยืน กลายเป็นบรรทัดฐานใหม่

เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ ศิลปินที่ร่วมแสดงผลงานไม่เพียงแต่เป็นผู้สังเกตการณ์สภาพแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นนักมานุษยวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ และผู้ประกอบพิธีกรรมที่มีปฏิสัมพันธ์กับองค์ประกอบที่มีชีวิต ผลงานของพวกเขาที่หลากหลาย ตั้งแต่วิดีโอและสื่อผสม จิตรกรรมและประติมากรรมที่สร้างสรรค์จากวัสดุรีไซเคิล ไปจนถึงการจัดวางที่ต้องใช้แรงงานเข้มข้น ล้วนอาศัยการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อกระตุ้นเตือนให้เราตระหนักถึงความรับผิดชอบส่วนบุคคลที่มีต่อโลกใบนี้

Angkrit Ajchariyasophon, Torlarp Larpjaroensook, LE Brothers, Khvay Samnang, Jedsada Tangtrakulwong, Ploenchan Vinyarat

Curated by Loredana Pazzini-Paracciani 

333Gallery / warehouse 30, Bangkok 

Media Preview: October 4

Public Opening: October 5 – November 3, 2024 

Artists’ talk : October 5 at 5pm

Opening of Event: October 5 6pm. (Artists are in attended)

Select your currency
Scroll to Top

Login Account

Login or create account
to track your purchase order

Start selling your art
with 333gallery

I'm a Collector

Login or create account
to track your purchase order

I'm an Artist

Start selling your art
with 333gallery